วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สติปัฏฐาน

                  กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นการฝึกสติ และให้ใช้สติ  พิจารณาหรือสังเกตกาย หรือตามดูรู้เท่าทันตามจริงปฏิกิริยาของกายหรือที่เรียนกว่า สังขารกาย ถือว่าเป็นการฝึกสติขั้นแรกโดยใช้สติพิจารณาไปในกาย เช่น ฝึกมีสติดูลมหายใจเข้าออก  ฝึกมีสติดูอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน  ฝึกมีสติดูความเคลื่อนไหวต่างๆ  ฝึกมีสติพิจารณาส่วนประกอบของร่างกายจากแหล่งที่มา  ฝึกมีสติพิจารณาการประกอบรวมกันของร่างกาย  ฝึกมีสติพิจารณาความเสื่อมสลายของร่างกายส่วนต่างๆ   ผู้สนใจปฏิบัติพึงสืบค้นข้อมูลได้จากเว็บไซต์ต่อไปนี้



                 เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นการฝึกสติ และให้ใช้สติ  พิจารณาหรือสังเกต การรู้เท่าทันเวทนาหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นที่ตั้งอยู่ที่ดับไปว่าเป็นความรู้สึกที่เป็นสุข ความรู้สึกที่เป็นทุกข์ ความรู้สึกที่เฉย พิจารณาสังเกตดูว่าความรู้สึกเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะมีสิ่งเร้าหรืออามิส(เจือด้วยกิเลส) หรือไม่มีสิ่งเร้า(เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ)    ผู้สนใจปฏิบัติพึงสืบค้นข้อมูลได้จากเว็บไซต์ต่อไปนี้



                   จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นการฝึกสติและให้ใช้สติ  พิจารณาหรือสังเกต การรู้เท่าทันจิตหรือความคิด(จิตสังขาร) หรือ อาการของจิต(เจตสิก)ว่าขณะนี้มีราคะหรือไม่มีราคะ(ความกำหนัดยินดี)  มีโทสะหรือไม่มีโทสะ(โกรธหรือไม่พอใจ)  มีโมหะหรือไม่มีโมหะ(หลง งมงาย) จิตหดหู่เศร้าหมอง จิตคิดฟุ้งซ่าน(คิดไปในเรื่องต่างๆ) จิตเป็นสมาธิ ฯลฯ  ทั้งให้มีสติรู้ชัดตามที่มันเป็นในขณะนั้น           ผู้สนใจปฏิบัติพึงสืบค้นข้อมูลได้จากเว็บไซต์ต่อไปนี้


                 ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นการฝึกสติและให้ใช้สติ  พิจารณารู้ธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง โดยอาศัยธรรมเหล่านั้นเป็นเครื่องมือในการรู้ ระลึก พิจารณา เตือนสติเพื่อให้เกิดความเข้าใจหรือปัญญาเพื่อความดับทุกข์  ธรรมดังกล่าวได้แก่ นิวรณ์ ๕ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ โพชฌงค์ ๗ และอริยสัจ ๔
                ทั้งนี้ บุคคลผู้จะมีสติพิจารณารู้ธรรมเหล่านี้ตามสภาพจริงได้นั้น ต้องผ่านการฝึกสติและใช้สติพิจารณารู้เท่าทันใน กาย เวทนา จิต มาเป็นอย่างดีแล้ว จึงจะเข้าถึงสภาวธรรมเหล่านี้อย่างถ่องแท้ได้   ผู้สนใจปฏิบัติพึงสืบค้นข้อมูลได้จากเว็บไซต์ต่อไปนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น